เช็คราคารถกระบะมือสอง
ISUZU D-MAX 2.5 X-Series รถปี 2013
- รถปี: 2013
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 150,000 กม.
MITSUBISHI TRITON 2.4 PLUS CNG รถปี 2013
- รถปี: 2013
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 223,936 กม.
TOYOTA HILUX REVO รถปี 2021
- รถปี: 2021
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 122,837 กม.
SUZUKI CARRY Mini Truck รถปี 2022
- รถปี: 2022
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 31,086 กม.
TOYOTA HILUX REVO 2.4 E รถปี 2023
- รถปี: 2023
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 36,110 กม.
TOYOTA HILUX REVO 2.8 J 4WD รถปี 2021
- รถปี: 2021
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 96,898 กม.
ISUZU D-MAX 2.5 SLX รถปี 2009
- รถปี: 2009
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 1 กม.
MITSUBISHI TRITON 2.4 GLS-Limited Plus รถปี 2016
- รถปี: 2016
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 1 กม.
ISUZU D-MAX 2.5 Hi-Lander Z รถปี 2012
- รถปี: 2012
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 217,081 กม.
ISUZU D-MAX 1.9 Hi-Lander L รถปี 2017
- รถปี: 2017
- เกียร์: ธรรมดา
- เลขไมล์: 83,343 กม.
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อรถกระบะมือสอง
หากใครกำลังต้องการซื้อรถกระบะมือสอมาไว้เพื่อใช้งานบรรทุกข้าวของต่าง ๆ เพราะมีราคาไม่แพงและสามารถใช้งานแบบสมบุกสมบันได้อย่างสบายใจกว่าการใช้รถกระบะมือใหม่ป้ายแดง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเราก็มีเรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อรถกระบะมือสองมาฝากกัน
หาข้อมูลรถกระบะมือสองในท้องตลาดลองหาข้อมูลเกี่ยวกับรถกระบะมือสองรุ่นที่เราสนใจหรือดูรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาด เพราะรุ่นไหนที่มีคนนิยมใช้งานกันมากก็จะมีข้อมูลการใช้งานให้เราได้ศึกษามากตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อดีข้อเสียในการใช้งาน พวกอะไหล่ต่าง ๆ และที่สำคัญก็คือมีตัวเลือกเยอะทำให้สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายกว่าอีกด้วย
ตรวจดูสภาพของรถกระบะมือสองทั้งภายนอกและภายในถึงจะเป็นรถมือสองแต่แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้รถที่มีสภาพดีเหมือนใหม่มากที่สุด ดังนั้นเมื่อได้รถกระบะมือสองคันที่เราสนใจแล้ว เมื่อไปดูรถจริงก็ต้องตรวจดูสภาพรถทั้งภายนอกภายใน ซึ่งในส่วนนี้แนะนำให้พาช่างหรือผู้ที่มีความรู้ไปด้วยจะเป็นการดีที่สุด
ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และทดลองขับควรทำการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์อย่างละเอียดรวมไปถึงดูว่ามีเสียงหรือกลิ่นที่ผิดปกติหรือไม่ จากนั้นก็ให้ทำการทดลองขับเพื่อดูปัญหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างขับขี่ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากเราไม่มีความรู้ความเข้าใจก็แนะนำให้พาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญไปช่วยตรวจสอบให้จะดีกว่า
ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นการทำงานของพวกเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ ระบบความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก เข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย ระบบไฟรวมไปถึงระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ว่ามีจุดไหนที่ทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงาน เพราะถ้าหากซื้อรถกระบะมือสองไปแล้วมีส่วนไหนที่เสียเราก็จะต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนซ่อมเอง แต่ถ้าตรวจพบในระหว่างที่ทำการซื้อขายก็อาจจะสามารถต่อรองราคาให้ถูกลงมาได้
ตรวจดูเอกสารต่าง ๆที่จำเป็นเมื่อตัดสินใจซื้อรถกระบะมือสองได้แล้ว ก็ต้องตรวจในเรื่องของเอกสารต่าง ๆ ได้แก่ เล่มทะเบียน ซึ่งในส่วนนี้รายละเอียดของรถในเล่มทะเบียนก็จะต้องตรงกับรถคันที่ซื้อทุกประการ ดูว่าชื่อใครเป็นเจ้าของรถ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ถ้าหากเป็นเครื่องยนต์ที่มีการเปลี่ยนหรือดัดแปลงสภาพมาก็ต้องมีการแจ้งขนส่ง หรือถ้ายังไม่ได้แจ้งก็ต้องมีใบแนบการซื้อเครื่องยนต์มาให้ด้วย อีกอย่างหนึ่งก็คือเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขาย รวมไปถึงเอกสารเกี่ยวกับประกันรถยนต์และการเสียภาษีด้วย
ต้องบอกว่าโดยปกติแล้วการซื้อรถกระบะมือสองสิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็จะไม่ค่อยแตกต่างกับการซื้อรถมือสองประเภทอื่น ๆ เท่าไหร่นัก เพราะจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะและซับซ้อนไม่เหมือนกับรถมือใหม่ป้ายแดง ดังนั้นทางที่ดีควรที่จะมีช่างหรือผู้เชี่ยวชาญไปดูรถกับเราด้วยจะเป็นการดีที่สุด
ค้นหาตามประเภทรถยนต์
ค้นหาตามราคารถมือสอง
คำค้นหายอดนิยม
- รถเก๋งมือสองไม่เกินแสน
- ราคารถเก๋งมือสองราคาถูก
- รถเก๋งมือสองผ่อนถูก
- รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน
- รถเก๋งมือสองสองถึงสามแสนบาท
- รถเก๋งมือสองสามถึงสี่แสนบาท
- รถเก๋งมือสองสี่ถึงห้าแสนบาท
- รถเก๋งมือสองห้าถึงหกแสนบาท
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน150000
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน250000
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกินแสน
- รถกระบะมือสองไม่เกินสองแสน
- รถกระบะมือสอง สองถึงสามแสนบาท
- รถกระบะมือสอง สามถึงสี่แสนบาท
- รถกระบะมือสอง สี่ถึงห้าแสนบาท
- รถกระบะมือสอง ห้าถึงหกแสนบาท
- รถกระบะมือสองราคาถูก เจ้าของขายเอง