เช็คราคารถเก๋งมือสอง
FORD FOCUS 1.6 Trend รถปี 2012
- รถปี: 2012
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 125,000 กม.
TOYOTA SIENTA 1.5 V รถปี 2018
- รถปี: 2018
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 113,482 กม.
MERCEDES BENZ E220 D รถปี 2022
- รถปี: 2022
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 46,000 กม.
MAZDA 2 1.5 Sports Groove รถปี 2013
- รถปี: 2013
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 227,174 กม.
MITSUBISHI MIRAGE 1.2 GLX รถปี 2019
- รถปี: 2019
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 38,590 กม.
TOYOTA VIOS 1.5 E รถปี 2014
- รถปี: 2014
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 107,370 กม.
NISSAN ALMERA 1.2 E SPORTECH รถปี 2018
- รถปี: 2018
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เลขไมล์: 55,136 กม.
เลือกรถเก๋งมือสองต้องดูอะไรบ้าง
ตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้รถเก๋งคันใหม่แต่ไม่อยากได้รถเก๋งป้ายแดงก็คือการซื้อรถเก๋งมือสองนั่นเอง หากใครกำลังตัดสินใจที่จะเลือกซื้อรถเก๋งมือสองมาไว้ใช้งาน วันนี้เราก็มีวิธีการดี ๆ สำหรับเลือกรถเก๋งมือสองว่าจะต้องดูอะไรบ้างเพื่อให้ได้รถเก๋งมือสองสภาพดีที่สุดมาฝากกัน
ตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถเก๋งมือสอง
ในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องตรวจดูก่อนว่าชิ้นส่วนรวมไปถึงอะไหล่ต่างๆของรถเก๋งมือสองคันที่คุณต้องการซื้อนะมีการนำเอาอะไหล่ของแท้ออกแล้วใช้อะไหล่ปลอมเข้ามาใส่แทนหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะพาช่างหรือผู้ที่มีความรู้ไปดูด้วยก็ได้ นอกจากนี้ก็ให้ดูสภาพทั้งภายนอกและภายในของรถเก๋งมือสองว่าอยู่ในสภาพที่ดีในระดับที่เราโอเคหรือเปล่า
ตรวจสอบเครื่องยนต์
นอกจากจะตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ให้ตรงกับเล่มทะเบียนแล้ว ก็ต้องตรวจดูการทำงานของเครื่องยนต์ดูด้วยว่ามีเสียง กลิ่น หรือสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่เมื่อสตาร์ทเครื่อง เร่งเครื่อง ไปจนถึงดับเครื่องยนต์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ของรถเก๋งมือสองที่คุณเลือกนั้นในเบื้องต้นไม่มีปัญหาที่หนักหนาสาหัสเกิดขึ้น และแนะนำว่าให้ลองสตาร์ทรถในขณะที่เครื่องเย็นหรือจอดเอาไว้เป็นเวลานานว่าสามารถสตาร์ทติดได้ง่ายหรือไม่
ทดลองขับ
เมื่อตรวจสอบเครื่องยนต์ในเบื้องต้นแล้ว การซื้อรถเก๋งมือสองก็ควรที่จะทำการทดลองขับดูด้วยว่ามีตรงไหนที่ผิดปกติในระหว่างขับขี่หรือไม่ เพื่อเป็นการตรวจสอบดูสมรรถนะของรถโดยรวมในเบื้องต้นนั่นเอง
ตรวจดูสีและควันของท่อไอเสีย
โดยทั่วไปแล้วรถเก๋งมือสองรุ่นใหม่นั้นจะไม่มีควันดำเกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากมีควันไอเสียเล็กน้อยก็ยังถือว่าไม่ผิดปกติอะไร แต่ถ้ามาเป็นแบบควันดำและมีกลิ่นเหม็น นั่นเป็นสิ่งบ่งบอกถึงการทำงานของเครื่องยนต์ในขณะที่กำลังเผาไหม้น้ำมันเครื่องว่ามีความผิดปกติเสื่อมสภาพนั่นเอง
ตรวจสอบดูประวัติการซ่อมบำรุง
การซื้อรถเก๋งมือสองแนะนำให้ดูประวัติการเข้าศูนย์บริการเพื่อซ่อมบำรุงหรือเป็นการเข้าศูนย์ตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อดูประวัติการใช้งานของรถ จะทำให้เราทราบได้ว่ารถเก๋งมือสองคันที่เลือกนั้นมีความเป็นมาอย่างไรและมีการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนอะไหล่มามากน้อยแค่ไหนแล้ว
ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าหลายคนไม่ได้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถลึกซึ้งเกี่ยวกับการดูรถเก๋งมือสอง ดังนั้นแนะนำปรึกษาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ ทางที่ดีก็แนะนำให้พาไปช่วยเลือกรถเก๋งมือสองกับคุณได้เลย จะได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นได้อย่างละเอียดตรงจุดมากกว่าตรวจดูด้วยตนเอง
ตรวจสอบสัญญาเกี่ยวกับข้อมูลการซื้อขายรถเก๋งมือสอง
เมื่อเลือกรถเก๋งมือสองได้คันที่ถูกใจแล้ว สิ่งสำคัญก็คือต้องตรวจดูสัญญาเกี่ยวกับข้อมูลการซื้อขายให้ละเอียดครบถ้วนก่อนที่จะทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย เพื่อให้สามารถซื้อรถเก๋งมือสองได้อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงการตรวจสอบดูพวกเอกสารอื่น ๆ อย่างเช่น เอกสารเกี่ยวกับการประกันภัย การจ่ายภาษี เป็นต้น
ต้องบอกว่าการซื้อรถเก๋งมือสองจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เพราะจะต้องใช้การพิจารณามากกว่าการซื้อรถเก๋งมือหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมีการตรวจสอบที่ดีพอก็จะทำให้คุณสามารถซื้อรถเก๋งมือสองคุณภาพดีมาใช้งานกันได้โดยที่จ่ายตังค์ซ่อมแซมน้อยที่สุดนั่นเองค่ะ
ค้นหาตามประเภทรถยนต์
ค้นหาตามราคารถมือสอง
คำค้นหายอดนิยม
- รถเก๋งมือสองไม่เกินแสน
- ราคารถเก๋งมือสองราคาถูก
- รถเก๋งมือสองผ่อนถูก
- รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน
- รถเก๋งมือสองสองถึงสามแสนบาท
- รถเก๋งมือสองสามถึงสี่แสนบาท
- รถเก๋งมือสองสี่ถึงห้าแสนบาท
- รถเก๋งมือสองห้าถึงหกแสนบาท
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน150000
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน250000
- รถกระบะมือสองราคาไม่เกินแสน
- รถกระบะมือสองไม่เกินสองแสน
- รถกระบะมือสอง สองถึงสามแสนบาท
- รถกระบะมือสอง สามถึงสี่แสนบาท
- รถกระบะมือสอง สี่ถึงห้าแสนบาท
- รถกระบะมือสอง ห้าถึงหกแสนบาท
- รถกระบะมือสองราคาถูก เจ้าของขายเอง