
สำหรับท่านที่มองหารถยนต์สักคันไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดง หรือ รถมือสอง แล้วไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงวันนี้ผมจะมาอธิบายหลักการตั้งแต่ต้นจนได้รับรถยนต์มาใช้งานเลยครับ ก่อนจะทำการซื้อรถยนต์เราก็ต้องมองหารถยนต์ที่เราสนใจหรือไปทดลองขับแล้วอยากได้มาใช้งานใช่ไหมครับ หากท่านทราบราคาเงินดาวน์รถและราคาผ่อนของรถคันนั้นท่านลองคำนวนจากเงินผ่อนต่องวด ของรถยต์กับฐานเงินเดือนของท่านหากค่างวดรถคันนั้นไม่เกินครึ่งหนึ่งของรายได้สุทธิหรือรายได้ที่หักทุกอย่างออกแล้วต่อเดือนครับหากไม่เกินครึ่งหนึ่งแล้วท่านไม่เคยติดแบล็คลิสและที่อยู่ปัจจุบันของท่านเป็นที่อยู่ในทะเบียนบ้านโอกาศกู้ไฟแนนซ์ผ่านสูงมากครับ
กรณีที่คำนวนแล้วครึ่งหนึ่งของรายได้สุทธิของท่านไม่พอต่อค่าส่งงวดรถก็ไม่ต้องกังวลนะครับท่านสามารถใช้วิธีการหาคนในครอบครัวของท่านทำการกู้ร่วมได้ ทำให้มีโอกาสกู้ไฟแนนซ์ผ่านได้เหมือนกันครับ แต่หากกรณีที่ท่านจ่ายค่าเงินดาวน์รถไม่เยอะท่านก็ต้องส่งค่างวดต่อเดือนสูงเป็นธรรมดาครับและท่านอาจจะต้องใช้คนค้ำประกันด้วยเช่นเดียวกันครับส่วนเรื่องของเอกสารที่ท่านจะต้องเตรียมมีดังนี้ครับ
เอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียม
กรณีเป็นบุคคลธรรมดา สิ่งที่จะต้องเตรียมคือ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สเตทเม้นท์ย้อนหลังหกเดือน, หากเป็นพนักงานบริษัทต้องเตรียม หนังสือรับรองเงินเดือนด้วยครับ ส่วนคนค้ำประกันก็เตรียมเอกสารเหมือนกันครับ
กรณีเป็นบริษัท / นิติบุคคล สิ่งที่จะต้องเตรียมคือ สำเนาบัตรประชาชนที่มีกรรมการบริษัทหรือผู้มีอำนาจเซ็นสําเนาถูกต้อง, สำเนาทะเบียนบ้านที่มีกรรมการบริษัทหรือผู้มีอำนาจเซ็นสําเนาถูกต้อง, สเตทเม้นท์ย้อนหลังหกเดือน, หนังสือรับรองบริษัท
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดงหรือ รถมือสอง นี่คือขั้นตอนที่คุณควรพิจารณา
1. กำหนดงบประมาณ:
- คำนวณงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ต่องวดหรือการผ่อนโดยไม่กระทบกับการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- พิจารณาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ประกัน, ภาษี, และค่าบำรุงรักษารถ ถ้าเป็นรถมือสองค่าบำรุงรักษารถจะมีค่าใช้จ่ายจุกจิกเยอะตามอะไหล่ของรถคันนั้นที่หมดสภาพไปตามเวลาและต้องเปลี่ยนใหม่
2. ดูความต้องการในการใช้รถ:
- กำหนดความต้องการของคุณ เช่น จำนวนที่นั่ง, ประเภทของรถ, และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับขี่
- ความต้องการใช้งานรถ เช่น เดินทางไกล, ใช้ในการขนส่ง, ใช้ในการทำธุรกิจ, หรือใช้ในเมือง
3. ค้นหาข้อมูลรถ:
- เริ่มต้นการค้นหาข้อมูลรถที่คุณสนใจ.
- ดูรีวิว, คะแนนความนิยม, และข้อมูลทางเทคนิค อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
4. ทดลองขับ:
- ไปที่ศูนย์รถยนต์ หรือ เต็นท์รถมือสองเพื่อขอทำการทดลองขับรถที่คุณสนใจ เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อ
- ตรวจสอบความสบาย, ประสิทธิภาพ, และคุณสมบัติอื่น ๆ
5. ตรวจสอบประวัติรถ:
- ตรวจสอบประวัติการใช้งานของรถ, ที่มาของรถ, และประวัติการซ่อมแซม เอกสารใช้ค่าจ่ายในการซ่อมบำรุงหรือบุ๊คเซอร์วิส
6. การตรวจสอบเอกสาร:
- ตรวจสอบเอกสารทางกฎหมายของรถ เช่น ทะเบียนรถ, ใบเสร็จ, และเอกสารการเช็คซ่อมบำรุง
- คำนึงถึงเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการไฟแนนซ์
7. ตรวจสอบสถานะเครดิต:
- หากคุณมีความจำเป็นต้องใช้บริการไฟแนนซ์ควรตรวจสอบสถานะเครดิตของคุณว่าสามารถซื้อรถคันนั้นได้หรือไม่
- พิจารณาการปรับปรุงสถานะเครดิตก่อนที่จะยื่นคำขอเพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
8. การเจรจาราคา:
- ค้นหาข้อมูลราคาที่เหมาะสมในตลาด เช็คราคาขายในตลาดว่าเค้าขายกันที่ราคาเท่าไร
- ทำการเจรจาราคารถกับผู้ขายให้ได้ราคาที่เราต้องการหรือใกล้เคียง
9. การทำสัญญา:
- อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขของสัญญาก่อนที่จะลงนามในการซื้อรถ
- ตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวกับการรับประกัน
10. ทำการตรวจเช็ครถ:
- หากเป็นไปได้พบช่างรถเพื่อการตรวจสอบสภาพรถและทำการเปลี่ยนถ่ายของเหลวของรถยนต์เช่นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค
- ตรวจสอบทุกองค์ประกอบของรถว่าอยู่ในสถาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานหรือไม่
11. ลงนามสัญญาและเริ่มใช้งาน:
- หลังจากที่ได้ทำการเจรจา, ตรวจสอบรายละเอียดสัญญาอีกครั้ง
- ลงนามสัญญาและเริ่มใช้งานรถของคุณได้เลย
ไฟแนนซ์มีหลายที่ให้เลือกอัตราดอกเบี้ยก็ต่างกันครับ การเลือกไฟแนนซ์เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการซื้อรถ เพื่อให้คุณได้เงินกู้ที่เหมาะสม ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับรถยนต์ที่ท่านเลือกและขอให้ขับขี่ปลอดภัยครับ เมาไม่ขับนะครับ