ถึงแม้ว่าในปัจจุบันรถมือใหม่ป้ายแดงหลายรุ่นก็มีรุ่นที่ราคาไม่เกิน 5 แสนบาทจำหน่ายกันแล้ว แต่ในบางครั้งหลายคนก็อยากได้รถเก๋งที่มีประสิทธิภาพดีกว่าในราคาไม่เกิน 5 แสนบาทด้วยเช่นกัน ดังนั้นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดก็คือการซื้อรถเก๋งมือสองนั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาคุณมาพบกับ 10 รถเก๋งมือสองน่าใช้ในราคาไม่เกิน 5 แสนบาทมาฝากกัน ตามมาดูได้เลยว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง
2020 Mitsubishi Attrage 1.2 GLX CVT (ราคาประมาณ 350,000 บาท)
เรียกได้ว่าเป็นรถเก๋งมือสองรุ่นค่อนข้างใหม่เลยทีเดียว ซึ่งในรุ่นนี้ก็เป็นรถอีโคคาร์แบบ 4 ประตูที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตทันสมัยด้วยดีไซน์ Advanced ‘Dynamic Shield’ ที่มีความโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเพิ่มการตกแต่งใหม่และได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายรวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่มอบความประหยัดและมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
2021 Nissan Almera 1.0 EL CVT (ราคาประมาณ 480,000 บาท)
สำหรับรุ่นนี้ก็สามารถหาซื้อมือสองที่ใหม่เหมือนมือ 1 ได้ในราคาไม่เกิน 5 แสนบาทกันแล้ว โดยนิสสันอัลเมร่าใหม่ก็ได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ภายนอกให้ความรู้สึกปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น พร้อมตัวถังที่มีความกว้างและความยาวมากขึ้น มีกระจังหน้าแบบ V-Motion พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง และแนวเสาหลังคาแบบ kick-up C-pillars หลังคาแบบลอยตัว floating roof มาพร้อมเครื่องยนต์ขุมพลังใหม่ขนาด 1.0 ลิตร ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์มีความราบรื่นนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม. ต่อลิตร พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
2018 Honda Brio Amaze 1.2 V CVT (ราคาประมาณ 320,000 บาท)
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นรถยนต์ ซีดานอีโคคาร์จากค่าย Honda ที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งยังถือได้ว่าเป็นโฉมที่มีความทันสมัยอยู่ในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะเป็นรถของปี 2018 ก็ตาม ภายในมีความกว้างขวางนั่งสบาย มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity และระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านมาตรฐานมลพิษไอเสียระดับ Euro 4 ทั้งประหยัดน้ำมันทั้งปลอดภัยเป็นรถที่น่าใช้งาน
2020 Suzuki Ciaz 1.2 GL CVT (ราคาประมาณ 400,000 บาท)
สำหรับรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าไปรถยนต์อีโคคาร์ซีดานคันแรกจาก Suzuki กันเลยทีเดียว โดยมีพื้นฐานการพัฒนามาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง Suzuki Swift ที่มาพร้อมกับดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในอันโดดเด่น ห้องโดยสารมีความกว้างขวางนั่งสบายและเก็บสัมภาระได้มากกว่าเมื่อเทียบกับ Eco Car รุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาด ครบครันทุกการเดินทางด้วยฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายรวมไปถึงความปลอดภัยที่ครบครัน มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส K12B 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผันทั้งไอดีและไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า พร้อมระบบการจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
2018 Toyota Yaris ATIV 1.2 E CVT (ราคาประมาณ 400,000 บาท)
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นรถยนต์ ECO car 4 ประตู คันแรกของค่าย Toyota หลังจากที่ได้ปล่อยรถอีโคคาร์เป็นแบบ hatchback 5 ประตูมาหลายปี โดยรุ่นนี้ก็ถือได้ว่ายังคงมาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความสปอร์ตหรูหราและทันสมัยทั้งภายนอกและภายใน มีฟังชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยใช้เครื่องยนต์รหัส 3NR-FE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า พร้อมระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI และระบบความปลอดภัยที่ครบครันทันสมัยระดับโลกจาก Toyota
2020 Mazda 2 1.3 S Leather Sedan (ราคาประมาณ 460,000 บาท)
นอกจาก Mazda 2 จะมีรุ่นที่เป็น hatchback 5 ประตูแล้ว ก็ยังมีรุ่นที่เป็นแบบรถเก๋ง 4 ประตูซีดานอีกด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ก็เป็นโฉม Minor Change ที่มาในรูปแบบ KODO Design ภายใต้คอนเซ็ปท์ Less is More ที่เรียบง่ายแต่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยการปรับแต่งช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้นและได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้ามามากขึ้น โดยรุ่นนี้ก็จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า และมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5
2019 Honda City 1.5 S i-VTEC CVT (ราคาประมาณ 440,000 บาท)
บอกเลยว่า Honda City เป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่มาพร้อมความครบครันและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะในฐานะรถเก๋งมือหนึ่งหรือรถเก๋งมือสอง ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่มีความสปอร์ตปราดเปรียวสวยงาม ภายในนั่งสบายกว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่สอนระบบหัวฉีดในเเบบมัลติพอยท์ PGM-FI ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่มีระบบ Shifting Control of Cornering Gravity เเละมี G Design Shift ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2018 Toyota VIOS 1.5 G (ราคาประมาณ 440,000 บาท)
มาต่อกันที่รถเก๋งมือสองยอดนิยมอย่าง Toyota Vios ปี 2018 ซึ่งรุ่นนี้ก็ยังถือว่าเป็นปีที่ค่อนข้างใหม่และมีดีไซน์รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ที่ยังไม่ตกรุ่น ซึ่งก็มาพร้อมกันออกแบบภายนอกและภายในที่มีความสปอร์ตหรูหราทันสมัย มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีและประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร ระบบวาล์วอัจฉริยะ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า รองรับน้ำมัน E85 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลราบรื่น และมาพร้อมกับมาตรฐานระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบจาก Toyota
2012 TOYOTA CAMRY 2.0 G เบนซิน (ราคาประมาณ 500,000 บาท)
หากใครกำลังมองหารถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ดีและสมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำ Toyota Camry รุ่นปี 2012 ซึ่งอาจจะดูเป็นรถหลายปีแต่ต้องบอกว่ายังคงมีดีไซน์ภายนอกและภายในที่มีความหรูหราทันสมัยเป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 1 AZ-FE ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน ซึ่งถ้าหากใครอยากเพิ่มฟังก์ชันให้มีความทันสมัยมากขึ้นก็อาจจะนำไปติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่มันใส่ได้ด้วยมาตรฐานชั้นนำจาก Toyota
2013 Honda ACCORD 2.0 EL i-VTEC (ราคาประมาณ 500,000 บาท)
สำหรับรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่มีราคาดีแม้จะเป็นรถเก๋งมือสองก็ตาม และที่สำคัญก็คือเป็นรถเก๋ง 4 ประตูที่สะท้อนภาพลักษณ์ของความหรูหราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากอยากได้ Honda Accord ในงบไม่เกิน 5 แสนบาทก็ต้องเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่าอยู่สักหน่อย แต่ต้องบอกว่าทั้งดีไซน์ภายนอกภายในรวมไปถึงสมรรถนะการใช้งานก็ยังคงยอดเยี่ยมและสามารถใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ
และทั้งหมดนี้ก็คือรถเก๋งมือสองทั้ง 10 รุ่นที่อยู่ในงบไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งก็มีทั้งรุ่นปีใหม่ ๆ และปีเก่าให้เลือก โดยรุ่นที่เป็นรุ่นราคาแพงและได้รับความนิยมถ้าหากเป็นรุ่นที่ผลิตในปีค่อนข้างใหม่ก็อาจจะยังคงมีราคาที่สูงอยู่พอสมควร ดังนั้นถ้าหากใครอยากประหยัดงบมากขึ้นหรืออยากได้รถรุ่นใหญ่ในราคาไม่เกิน 5 แสนบาทก็อาจจะต้องลองหารุ่นปีที่เก่าลงไปอีกสักเล็กน้อยก็ได้ จะได้รถเก๋งมือสองที่ถูกใจและอยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้นั่นเองค่ะ