แน่นอนว่ารถมือสองนั้นเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นจะมีจุดที่ต้องดูแลรักษามากกว่าการซื้อรถใหม่ป้ายแดงอยู่พอสมควร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจุกจิกกวนใจและทำให้รถมือสองของเราสามารถใช้งานไปได้อีกนาน ดังนั้นสำหรับใครที่เพิ่งซื้อรถมือสองหรือเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองราคาถูกกันอยู่ วันนี้เราก็มี 10 ข้อต้องรู้ในการดูแลรถมือสองให้สามารถใช้งานไปได้อีกนาน ๆ มาฝากกันค่ะ
- ดูแลระบบน้ำมันให้ดี
สำหรับระบบน้ำมันภายในรถก็จะมีในส่วนของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรก น้ำมันคลัชท์ ซึ่งถ้าหากได้รถมือสองมาแล้วอันดับแรกคืออะไรก็คือจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเหล่านี้ใหม่ทั้งหมด เพราะเราไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าเจ้าของเก่านั้นทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเหล่านี้มาครั้งล่าสุดตอนไหน ดังนั้นเพื่อความชัวร์ก็แนะนำให้เริ่มต้นใหม่ด้วยการเปลี่ยนน้ำมันต่าง ๆ ใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้รถมือสองของคุณนั้นเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการใช้น้ำมันที่เสื่อมสภาพหรือสกปรก นอกจากนี้การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่าง ๆ ก็ยังทำให้รถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่าง ๆ เมื่อครบกำหนด เพื่อให้รถมือสองของคุณสามารถใช้งานไปได้อีกนาน
- หมั่นตรวจเช็คหม้อน้ำเป็นประจำ
ผู้ใช้งานรถยนต์มือสองราคาถูกควรที่จะทำการตรวจเช็คหม้อน้ำเป็นประจำว่ามีรอยรั่วหรือคราบสนิมที่เกิดจากการแห้งของน้ำ โดยให้ตรวจเช็คปริมาณน้ำในหม้อน้ำว่ายังคงเป็นปกติหรือไม่ ถ้าหากพบปัญหาก็ควรที่จะนำไปให้ช่างตรวจเช็คหม้อน้ำเพื่อหาสาเหตุการรั่ว นอกจากนี้ถ้าหากพบว่าฝาครอบหม้อน้ำเกิดการร้าวหรือมีคราบขี้เกลือเกาะอยู่เป็นจำนวนมากก็ควรที่จะเปลี่ยนทันที เพราะจะส่งผลต่อการระบายความร้อนของรถและมีผลต่อใช้งานและอาจเกิดความเสียหายตามมาได้
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
ในกรณีที่เพิ่งซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกมา ก็แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แต่แรกไปเลยจะเป็นการดีที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีการใช้แบตเตอรี่ไปได้ประมาณ 1 ปี ก็จะเริ่มมีอาการแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่นั้นเริ่มเสื่อมสภาพลงไป ทำให้ไม่สามารถเก็บไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าหากพบว่าเริ่มมีอาการของแบตเตอรี่เสื่อมอย่างเช่น เริ่มสตาร์ทเครื่องติดยาก ไฟหน้าสว่างน้อยลง ระบบไฟฟ้าเริ่มทำงานผิดปกติ
- หมั่นตรวจเช็คสายพาน
ควรทำการตรวจสอบระบบสายพานต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ ถ้าหากพบว่าเริ่มมีรอยแตกเกิดขึ้นที่สายพานก็ให้ทำการเปลี่ยนแต่เนิ่น ๆ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ นอกจากนี้ก็ให้ตรวจเช็คความตึงของสายพานว่าหย่อนเกินไปหรือไม่ รวมไปถึงการดูแลทำความสะอาดสายพานไม่ให้มีคราบดินหรือสิ่งสกปรก ซึ่งในส่วนนี้เราก็อาจจะให้ช่างทำการตรวจเช็คให้ก็ได้
- ตรวจเช็คระบบเบรกเป็นประจำ
การตรวจเช็คระบบเบรกถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์มือสองราคาถูก นั่นเป็นเพราะว่าได้ผ่านการใช้งานมาแล้วนั่นเอง ซึ่งระบบเบรกก็ถือได้ว่าเป็นระบบที่ทำให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ตรวจสอบระบบเบรกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเบรก ลูกยางต่าง ๆ รวมไปถึงน้ำมันเบรก ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพื่อให้การใช้งานรถมือสองของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ให้เราสามารถใช้รถมือสองไปได้กันอีกนาน
- ตรวจสอบสภาพยาง
เมื่อซื้อรถมือสองมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องตรวจเช็คให้ดีก็คือสภาพของยางรถยนต์ ถ้าหากยางรถยนต์ยังอยู่ในสภาพดีสามารถใช้งานได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางใหม่ทั้งหมด เพียงแค่หมั่นเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่กำหนด แล้วคอยตรวจเช็คดูว่ามีความชื้นเข้าไปด้านในหรือไม่ เพราะถ้าหากมีความชื้นเข้าไปด้านในก็อาจจะทำให้ล้อรถเกิดความเสียหายได้ แต่ในกรณีที่ซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกมาแล้วพบว่ายางรถยนต์เสื่อมสภาพ ก็แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเพิ่มความปลอดภัยและการขับขี่ที่ดีกว่า
- เปลี่ยนกรองอากาศใหม่
ถึงแม้ว่ากรองอากาศจะสามารถทำความสะอาดได้ แต่ถ้าหากซื้อรถมือสองมาแล้วก็แนะนำให้เปลี่ยนตัวกรองอากาศใหม่จะดีกว่า เพื่อที่รถของคุณจะได้ดูดอากาศสะอาดปราศจากฝุ่นเข้าไปในระบบจุดระเบิด ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ เป็นผลดีกับเครื่องยนต์ และยังทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
- ตรวจเช็คการทำงานของเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง
ในขั้นตอนนี้ก็อาจจะทำไปพร้อมกับในช่วงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่าง ๆ ก็ได้ โดยเมื่อให้ช่างทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันแล้ว ก็อย่าลืมให้ทำการตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างไปด้วย เพราะถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะได้สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้งานนั่นเอง
- ควรใช้งานรถอย่างสม่ำเสมอและไม่เร่งเครื่องทันทีเมื่อสตาร์ทรถ
การจอดรถทิ้งเอาไว้นานเกินไปโดยที่ไม่มีการติดสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงาน ก็จะทำให้ระบบหล่อลื่นภายในรถนั้นแห้งทุกครั้งเมื่อมีการสตาร์ทรถ จนทำให้เครื่องยนต์สึกกร่อนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังเป็นการทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นเพราะขาดการชาร์จจนทำให้ประจุที่มีอยู่ถูกคายออกไปหมดแล้ว ในขณะที่การเร่งเครื่องทันทีเมื่อสตาร์ทรถโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศภายนอกมีความหนาวเย็น ก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเกิดการสึกหรอขึ้นมาได้ ดังนั้นควรสตาร์ทรถทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-20 นาที จึงค่อยเร่งความเร็ว ก็จะเป็นการถนอมเครื่องยนต์ได้มากกว่า
- ดูแลทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน
การทำความสะอาดรถโดยเฉพาะการล้างรถบ่อย ๆ ก็จะทำให้รถมือสองของเราดูสะอาดเหมือนใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งก็อาจจะเพิ่มความเงางามดูเหมือนใหม่ให้กับภายนอก ด้วยการขัดสีหรือเคลือบสีรถยนต์ รับรองได้ว่าถ้ารถมือสองของคุณจะมีสภาพสวยแวววาวเหมือนใหม่กันเลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 ข้อต้องรู้ ในการดูแลรถมือสองให้ใช้งานได้นาน ๆ ซึ่งถ้าหากใครกำลังใช้รถมือสองหรือเพิ่งซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกมาใช้ ก็อย่าลืมปฏิบัติตามทั้ง 10 ข้อนี้เพื่อให้รถมือสองของคนที่อยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์มากที่สุด สามารถใช้งานไปได้อีกนาน