ย้อนประวัติ Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจากค่ายโตโยต้า

ย้อนประวัติ Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจากค่ายโตโยต้า

ย้อนประวัติ Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจากค่ายโตโยต้า พร้อมแนะนำรถฟอร์จูนเนอร์มือสองรุ่นไหนที่คุ้มค่าน่าใช้

        หากให้พูดถึงรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นยอดฮิตในบ้านเรา เชื่อได้เลยว่าอันดับต้น ๆ จะต้องมีชื่อของ Toyota Fortuner กันอย่างแน่นอน ในขณะที่ราคารถฟอร์จูนเนอร์มือใหม่ป้ายแดงยังคงอยู่ในหลักล้าน แต่ราคารถฟอร์จูนเนอร์มือสองนั้นสามารถหาซื้อได้ในราคาหลักแสนเท่านั้น จึงทำให้หลายคนที่อยากได้รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปหันมาเลือกซื้อฟอร์จูนเนอร์มือสองกันอยู่ไม่น้อย วันนี้เราก็จะพามาย้อนรอยดูประวัติของ Toyota Fortuner ตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน พร้อมแนะนำรุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหาฟอร์จูนเนอร์มือสองมาไว้ใช้งานกัน  

 ย้อนรอย Toyota Fortuner จากรุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน

       Toyota Fortuner เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลางที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะจากค่ายโตโยต้า ซึ่งในบ้านเราก็จะเรียกเป็นรถ PPV โดยมีพื้นฐานมาจากรถกระบะ เริ่มตั้งแต่ Toyota Hilux Vigo, Toyota Hilux Revo และล่าสุดก็จะเป็น Toyota Innova ในรุ่นปัจจุบัน โดยเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีเบาะที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือก 

 

Toyota Fortuner รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2558)

        มีการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2547 พร้อมกับ Toyota Innova  ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ซึ่งเป็นรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในประเทศไทยโดยวิศวกรชาวไทยและญี่ปุ่น ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความสวยงามกว่าคู่แข่งและเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะแรงที่สุดในตอนนั้น จึงทำให้กลายเป็นรถอเนกประสงค์ที่ขายดีมากที่สุดในช่วงนั้นเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตรและ 3.0 ลิตร พละกำลังเหลือใช้พร้อมลุยทุกเส้นทาง จากนั้นในเดือนมีนาคมปี 2549 ก็ได้มีการเพิ่มรุ่นพิเศษ Exclusive ที่มาพร้อมกับสีขาวมุกสุดหรู ต่อมาในช่วงกลางเดือนมีนาคมปี 2550 ก็เพิ่มรุ่นพิเศษ Smart ที่มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบเดียวกับชุดตกแต่ง TRD ส่วนในช่วงปลายเดือนกันยายนปีเดียวกันก็มีการปรับรุ่นย่อยของรุ่น 2.7 V จากรุ่น 4WD เป็น 2WD

        ในปี 2551 ได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาเป็นครั้งแรกด้วยการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่พร้อมไฟหน้าแบบใหม่รวมไปถึงออกแบบไฟท้ายและล้อแม็กลายใหม่ ติดตั้งระบบ VSC และ TRC พร้อมเปลี่ยนจานเบรกให้ใหญ่ขึ้น และเพิ่มระบบเสริมแรงเบรก BA รวมไปถึงติดตั้งเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมรุ่นที่มีเนวิเกเตอร์ให้เลือก และเพิ่มรุ่นดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อมาด้วย จากนั้นในปี 2552 ก็ได้เพิ่มรุ่นพิเศษ TRD Sportivo และ Aperto  

        การปรับโฉมครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2554 เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่แบบบิ๊ก ไมเนอร์เชนจ์ซึ่งมาพร้อมกับการเปิดตัว Toyota Hilux Vigo Champ นึกว่าเป็นการปรับโฉมใหม่เกือบหมดแทบทั้งคัน และในปี 2555 ก็ได้ออกรุ่นตกแต่งพิเศษ TRD Sportivo ภายใต้สโลแกน DNA สปอร์ตสายพันธุ์ใหม่ จากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติในรุ่นดีเซลจาก 4 สปีดเป็น 5 สปีดและเพิ่มรุ่นย่อย 2.5 G เกียร์อัตโนมัติ พร้อมทั้งตับกำลังรุ่น 3.0 ลิตรให้มีพละกำลังสูงขึ้นเป็น 171 แรงม้า เพิ่มระบบนำทาง Eco Navi ที่สามารถประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่แบบ Real Time รวมไปถึงติดตั้งเครื่องเล่น DVD และจอแสดงผล LCD แบบสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว และได้เพิ่มรุ่นพิเศษ Midnightshine Edition ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2557 ที่มาพร้อมความหรูหรามากยิ่งขึ้น 

       

Toyota Fortuner รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2558 - ปัจจุบัน)

        เปิดตัวรุ่นที่ 2 “All New Fortuner” ภายใต้สโลแกน “New legend of the pride” เป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2558 โดยได้มีการออกแบบตัวรถให้มีความหรูหรามากขึ้นทั้งภายในและภายนอกพร้อมเปลี่ยนกระจังหน้ารวมไปถึงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมระบบนำทาง เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่รองรับ T-Connect และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมช่องเสียบอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ USB, iPOD และ AUX โดยได้เปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่มาพร้อมกับ Sequential Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) กล้องมองหลัง ระบบควบคุมไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และช่องเก็บของแบบ Cool Box พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันได้มาตรฐานระดับโลกจากโตโยต้า

ต่อมาในปี 2563 ได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 5 ปีกันเลยทีเดียวโดยเปิดตัวใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่นที่มีดีไซน์แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็นรุ่นมาตรฐานและรุ่นพิเศษที่ชื่อว่า “Legender” ที่ได้มีการออกแบบให้มีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมความหรูหราโดดเด่นในสไตล์สปอร์ต และได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตรให้มีสมรรถนะดีขึ้น มีการติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และได้มีการเพิ่มรุ่น GR Sport เข้ามาในปี 2564  เรียกได้ว่าเป็นรุ่นตัวท็อปของรถในตระกูล PPV จากค่ายโตโยต้าให้กันเลยทีเดียว 

 

แนะนำรถฟอร์จูนเนอร์มือสอง รุ่นไหนที่น่าใช้

  1. Toyota Fortuner รุ่น Minor Change ปี 2008

ใครที่กำลังอยากได้รถฟอร์จูนเนอร์มือสอง ที่มาพร้อมกับราคาน่าคบหาและได้ฟังชั่นครบสามารถใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีก็ขอแนะนำให้ลองดูฟอร์จูนเนอร์มือสองในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกก็คือของปี 2551 หรือรุ่นปี 2008 เพราะได้มีการปรับโฉมที่ดูมีความทันสมัยและยังเพิ่มระบบเสริมแรงเบรก (BA) เข้ามา พร้อมทั้งเปลี่ยนจานเบรกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากในรุ่นแรกนั้นส่วนใหญ่ผู้ใช้งานมักจะบ่นกันในเรื่องของระบบเบรกกันเป็นหลัก 

 

Toyota Fortuner รุ่นปี 2012  

        สำหรับตัวนี้ก็เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นฟอร์จูนเนอร์มือสองที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันครบครันทันสมัยไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัดใหม่สีฟ้า พวงมาลัย multi-function เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัส ระบบนำทางอีโคเนวี่ Eco Navi ตอบโจทย์การขับขี่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยงามแข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยวถ้าไม่ต่างจากรถในปัจจุบันกันเลยทีเดียว

 

Toyota Fortuner ปี 2015 

รุ่นนี้ก็เป็นโฉมแรกในรุ่นที่ 2 นั่นเอง เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามหรูหราทั้งภายนอกและภายใน แถมยังได้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันแทบจะไม่ต่างจากรถรุ่นปีปัจจุบันกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth ช่องเสียบอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ USB, iPOD และ AUX กล้องมองหลัง ขับขี่ได้สะดวกสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่มาพร้อมกับ Sequential Shift และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันได้มาตรฐานระดับโลกจากโตโยต้า 

ดังนั้นใครที่กำลังมองหาฟอร์จูนเนอร์มือสอง ก็แนะนำให้ลองเลือกดูจากรุ่นที่อยู่ในช่วงปี  2008-2015 จะเป็นการดีที่สุด เพราะเรียกได้ว่ายังคงได้รถที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัยรวมไปถึงพวกฟังชั่นและอุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ที่ครบครันตอบโจทย์การขับขี่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง 

กุมภาพันธ์ 28 2024 By Admin ฟอร์จูนเนอร์มือสอง       

บทความอื่นที่น่าสนใจ