ข้อควรรู้ก่อนตั้งราคารถมือสอง มีหลักเกณฑ์อะไรที่ใช้ในการกำหนดราคารถมือสองกันบ้าง

ข้อควรรู้ก่อนตั้งราคารถมือสอง มีหลักเกณฑ์อะไรที่ใช้ในการกำหนดราคารถมือสองกันบ้าง

ใครที่กำลังคิดจะขายรถมือสอง แน่นอนว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการตั้งราคารถมือสองนั่นเอง ซึ่งการตั้งราคารถมือสองนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถและปีที่ออกรถเป็นหลัก รวมไปถึงต้องดูด้วยว่าจะขายรถมือสองที่ไหนดี เพราะถ้าหากเป็นการฝากขายที่เต็นท์รถก็จะถูกหักเปอร์เซ็นต์ค่าวางขายด้วย ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องบวกราคารถมือสองเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ถ้าหากเป็นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ก็จะไม่ถูกหักเปอร์เซ็นต์และมีความสะดวกมากกว่า หลายคนคิดว่าการตั้งราคารถมือสองนั้นเพียงแค่เข้าไปค้นหาราคารถมือสองแล้วเปรียบเทียบราคากลางในท้องตลาด จากนั้นจึงนำมาตั้งราคาให้กับรถของตนเองก็ได้ ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ทราบหรือไม่ว่าในการตั้งราคารถมือสองนั้นก็มีเกณฑ์ในการตั้งราคากันอยู่หลัก ๆ 5 ข้อด้วยกัน ดังนี้

 

  1. ราคากลางของตลาดที่กำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก

        สำหรับราคากลางของตลาดนั้น ทางกรมการขนส่งทางบกก็จะมีการออกเกณฑ์ราคารถมือสองของทุกรุ่นเอาไว้ โดยราคาประเมินรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประจำปี 2564 ก็สามารถเข้าไปดูได้ทางกรมการขนส่งทางบกเพื่อเช็คราคาประเมิณเบื้องต้น นอกจากนี้ก็ควรทำการตรวจสอบราคารถมือสองอีกครั้งจากแหล่งซื้อขายรถมือสองที่น่าเชื่อถือตามเว็บไซต์ต่าง ๆ จากนั้นก็ทำการเช็คราคาอีกครั้งด้วยการประเมินราคารถ ก็จะทำให้เราสามารถตั้งราคารถมือสองได้อย่างเหมาะสมและเป็นกลางมากที่สุด  

 

  1. ประวัติการใช้รถ

        ถึงแม้ว่ารถมือสองที่เราต้องการขายนั้นจะเป็นรถของเราที่ใช้เอง แต่เชื่อได้เลยว่าหลายคนน่าจะไม่ได้จดจำในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการซ่อมแซมที่ผ่านมาว่าทำอะไรมาบ้างในช่วงเวลาที่ใช้รถกันอยู่ หรืออาจจะมีข้อมูลที่ไม่ละเอียดมากนัก ดังนั้นจึงแนะนำให้ติดต่อตัวแทนประกันรถยนต์ที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้เพื่อทำการเช็คประวัติการใช้รถทั้งในส่วนของประวัติการซ่อมแซม รวมไปถึงการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละเดือน ซึ่งในส่วนของบริษัทประกันรถยนต์ก็จะทำการตรวจสอบและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น ประวัติการซ่อมแซม รวมไปถึงเลขไมล์บนหน้าปัดในระหว่างทำประกัน นอกจากนี้ในส่วนของคู่มือประกอบรถ หรือ Service Book ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะมาซื้อรถของเราได้ เพราะจะมีประวัติการบำรุงรักษาบันทึกเอาไว้ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถตั้งราคารถมือสองโดยพิจารณาจากค่าเสื่อมสภาพและการใช้งานของรถที่มีความเหมาะสมได้มากที่สุดนั่นเอง รวมไปถึงยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่มาซื้อรถต่อจากเราเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสและความจริงใจในการซื้อขายรถได้อีกด้วย 

 

  1. การปรับแต่งตัวรถ

        หลายคนเมื่อซื้อรถมาใช้ก็จะมีการแต่งรถเพิ่มเติมกันบ้างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสวยงามหรือต้องการให้รถดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้การแต่งรถก็ยังทำให้ตัวรถนั้นมีน้ำหนักเบาขึ้น ทำให้มีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ลดลง จึงทำให้สามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นกว่ารถตามปกติ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อได้เปรียบในการตั้งราคารถมือสอง เพราะรถของเรามีความประหยัดน้ำมันมากกว่านั่นเอง แต่ในทางกลับกันถ้าหากเป็นรถที่มีการติดตั้งแก๊สไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV มูลค่าของรถก็จะลดลงเพราะมีการดัดแปลงมา ไม่ใช่เครื่องเดิม ๆ ดังนั้นทางที่ดีถ้าหากเราทำการซื้อรถใหม่มาใช้แล้วไม่ได้มีแผนที่จะขายต่อเป็นรถมือสอง ก็แนะนำว่าไม่ควรเอารถไปติดตั้งแก๊ส ในขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เราติดตั้งมาเพิ่มเติม อาจจะเป็นเครื่องเสียง ลำโพง กล้องติดรถยนต์ หน้าจอ LCD อาจจะใช้เป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจรวมไปถึงสามารถใช้ตั้งราคารถมือสองให้สูงขึ้นมาได้ หรือถ้าหากใครอยากขายรถสภาพเดิม ๆ ก็แนะนำให้ถอดพวกอุปกรณ์รวมไปถึงชุดแต่งต่าง ๆ ออกมาก่อน เพราะสามารถขายแยกต่างหากได้ หรือเอามาใช้เป็นตัวต่อรองเป็นของแถมให้กับผู้ที่จะมาซื้อรถของเราก็ได้  

 

  1. สถานะทางการเงินของรถ

ตรงนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญในการตั้งราคารถมือสองด้วยเช่นกัน เพราะในกรณีที่รถผ่อนหมดแล้วและทำการโอนเป็นชื่อของเราเอง การขายก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก แต่ถ้าหากเป็นรถที่ยังผ่อนไม่หมดแล้วยังติดไฟแนนซ์อยู่ ในส่วนนี้จะมีเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะรถที่ต้องการขายนั้นยังไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเรา แต่เป็นของไฟแนนซ์ ถ้าหากทำการซื้อขายโดยที่ไม่ได้มีการติดต่อไฟแนนซ์ก่อนก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกกฎหมาย และเกิดปัญหาตามมาภายหลังแน่นอน ดังนั้นส่วนใหญ่จึงเลือกการขายแบบขายดาวน์ ซึ่งก็จะมีทั้งแบบการนำเอาเงินของผู้ที่จะซื้อรถต่อไปปกไฟแนนซ์แล้วให้โอนชื่อเป็นของผู้ซื้อต่อเลย หรืออีกกรณีก็คือให้ไฟแนนซ์ทำการเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้ซื้อรถต่อจากเราเป็นผู้ที่ทำการผ่อนรถต่อ ซึ่งการขายดาวน์แบบนี้เราก็จะได้เงินดาวที่จ่ายไปคืนมาบ้างแต่ก็ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ราคาเลยและไม่ต้องรับภาระผ่อนรถต่ออีกด้วย

  

  1. ตั้งเป้าหมายราคาขายรถที่ต้องการ

ในกรณีนี้ก็คือดูความต้องการของเราว่าอยากจะขายรถมือสองที่ราคาเท่าไหร่ โดยเมื่อเราเช็คราคารถมือสองจนรู้ว่าราคากลางนั้นขายกันอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว ก็แนะนำให้ตั้งราคาบวกเพิ่มไปเผื่อการต่อรองอีกเล็กน้อย อย่างเช่นถ้าหากราคารถมือสองที่เราต้องการขายอยู่ที่ประมาณ 540,000 บาท บวกลบได้เล็กน้อย ก็อาจจะตั้งราคาขายให้สูงขึ้นไปเพื่อใช้สำหรับการต่อรองราคาและลดราคาให้กับผู้ที่มาซื้อรถต่อจากเรา โดยอาจจะตั้งราคาไว้ที่ประมาณ 569,000 - 579,000 เพราะเมื่อมีการเจรจาต่อรองหรือให้ส่วนลดกันแล้วราคารถมือสองที่ขายได้ก็ยังอยู่ในช่วงที่เราต้องการขายนั่นเอง ในขณะที่ผู้ซื้อรถก็จะรู้สึกว่าได้ซื้อรถมือสองในราคาที่ถูกลงมา เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับทางผู้ขายและผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี  

 

       ดังนั้นก่อนที่จะขายรถมือสองก็ควรพิจารณาเพื่อตั้งราคารถมือสองจากเกณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้กันก่อน เพื่อที่จะได้ราคารถมือสองที่มีความสมเหตุสมผล ได้ราคาที่ถูกใจทั้งผู้ขายและผู้ซื้อมากที่สุด 

 

มีนาคม 2 2024 By Admin ราคารถมือสอง       

บทความอื่นที่น่าสนใจ