สัญญาณที่จะบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณใกล้หมดแล้ว

สัญญาณที่จะบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณใกล้หมดแล้ว

เคยมั้ยเวลาที่คุณสตาร์ทเครื่องรถยนต์แต่เครื่องยนต์ไม่ติด น้ำมันก็มีแต่ทำไมสตาร์ทไม่ติด แล้วอะไรที่จะบอกว่าเราควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้แล้ว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์หรือซื้อ รถมือสอง ใช้งานมาไม่กี่เดือนแล้วสตาร์ทไม่ติด ไม่ต้องตกใจครับอาการที่จะบ่งบอกว่า แบตเตอรี่ของคุณใกล้หมดหรือควรจะเปลี่ยนได้แล้วนะ ลองสังเกตครับว่าตอนสตาร์ทเครื่องรถยนต์จะมีอาการหน่วงขึ้นถึงจะสตาร์ทติด และไฟส่องสว่างจะไม่สว่างเหมือนทุกครั้งจะหรี่ลงในระดับหนึ่ง หรือนับจะนวนเดือนที่ใช้งานแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบตน้ำ หรือ แบตแห้ง หลังจากซื้อมาใช้งานปีครึ่งเป็นต้นไปเราต้องคอยสังเกตแล้วล่ะว่ามีอาการผิดปกติหรือเปล่าแต่ส่วนมากใช้งานได้ถึง 2 ปีขึ้นไปหากมีการดูแลที่ดี

ประเภทของแบตเตอรี่ :

แบตเตอรี่แห้ง คือแบตเตอรี่ที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ใช้รถเพราะว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องการดูแลมากใช้งานอย่างเดียวไม่ต้องเติมน้ำกลั่นและมีฝาใสบอกสีว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุแล้วหรือยังซึ่งแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันไปครับ ส่วนแบตเตอรี่น้ำ เป็นแบตที่ราคาไม่แพงครับแต่ต้องอาศัยการดูแลหน่อยต้องคอยเติมน้ำกลั่น แบตแบบนี้เหมาะกับผู้ชายมากกว่าครับดูแลเซอร์วิสได้ดีกว่าผู้หญิงครับ และก็มีหลายรุ่นที่คุณภาพดีมากด้วยครับ การดูอาการแบตเตอรี่หมดสภาพมีวิธีการดังนี้

  1. ประเภทของแบตเตอรี่: มีแบตแห้งและแบตน้ำ แบตแห้งไม่ต้องการดูแลมาก แต่ถ้าเป็นแบตน้ำจะต้องเติมน้ำกลั่นเป็นประจำ ควรเลือกแบตที่เหมาะกับความต้องการและความสะดวกของคุณ
  2. อายุของแบตเตอรี่: ถ้าคุณใช้งานแบตเตอรี่มานานแล้วและพบว่ามีอาการหน่วงในเวลาสตาร์ท หรือไฟส่องสว่างไม่สว่างเหมือนเดิม อาจเป็นเครื่องชี้ว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุแล้ว ควรเริ่มพิจารณาการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่


หากไม่มีรถอื่นมาช่วยหรือคุณไม่รู้จะทำอย่างไร ให้ทำการค้นหาร้านเปลี่ยนแบตเตอรี่ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยส่วนมากร้านเหล่านี้มีบริการพกแบตเตอรี่ให้ถึงที่ หรือมีอีกวิธีคือการจั้มแบตเตอรี่ เพื่อให้เราทำการสตาร์ทเครื่องรถยนต์ได้และขับไปยังร้านเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้ ข้อควรระวังการจั้มแบตเตอรี่สายไฟที่จั้มแบตเตอรี่ห้ามเสียบผิดขั้วนะครับอันตรายและส่งผลเสียกับรถยนต์ได้ครับ

วิธีการจั้มแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้อง

  1. คีบสายสีแดงที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่รถยนต์คันที่แบตเตอรี่เต็ม
  2. คีบสายสีแดงอีกฝั่งที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่รถยนต์คันที่แบตเตอรี่หมด
  3. คีบสายสีดำที่ขั้วลบของรถคันที่แบตเตอรี่เต็ม
  4. คีบสายสีดำอีกฝั่งหนีบที่ตัวถังรถของคันที่แบตเตอรี่หมด ไม่แนะนำให้คีบสายสีดำอีกฝั่งกับขั้วลบของรถคันที่แบตเตอรี่หมด
  5. สตาร์ทรถคันที่มาช่วยเหลือเราก่อนทิ้งไว้สักพักก็สตาร์ทรถของเราครับ
  6. หลังจากรถสตาร์ทติดแล้วให้ถอดสายสายดำที่หนีบกับตัวถังรถของคันที่แบตเตอรี่หมดก่อนออกครับแล้วถอดสายดำขั้วลบของรถที่แบตเต็มออกครับ แล้วถอดสายสีแดงของรถคันที่แบตเตอรี่หมดออกและสุดท้ายก็ดึงสายสีแดงที่ขั้วบวกของรถคันที่แบตเตอรี่เต็มออกได้ครับ

ความระมัดระวังในการจั้มแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะอาจเกิดอันตรายและส่งผลเสียต่อรถได้ ควรทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงานนี้ กรุณาอย่าลืมตรวจสอบและดูแลรักษาแบตเตอรี่ของรถของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

 

ธันวาคม 10 2023 By Admin รถมือสอง       

บทความอื่นที่น่าสนใจ