หลังจากที่คุณตัดสินใจแล้วว่าคุณจะซื้อรถจากตลาดรถมือสอง เมื่อได้รถที่ต้องการและราคาที่เหมาะสม พร้อมทำการซื้อขายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรื่องต่อมาคือคุณควรนำรถยนต์ของคุณไปตรวจสอบสภาพอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจต่อการใช้งานในอนาคต แต่เชื่อว่าคนที่เป็นมือใหม่ เมื่อได้รถมาแล้วต้องกำลังคิดวางแผนว่าควรพารถไปตรวจสอบสภาพหรือปรับเปลี่ยนในเรื่องใดบ้าง ดังนั้นลองมาดูรายละเอียดสิ่งที่คุณควรทำหลังซื้อรถยนต์จากตลาดรถมือสองมาแล้ว ดังต่อไปนี้
1. เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบ
เมื่อคุณได้รถที่ทำการซื้อจากตลาดรถมือสองมาแล้ว เรื่องแรกที่คุณควรทำคือพารถเข้าอู่ซ่อมแล้วทำการเปลี่ยนของเหลวภายในเครื่องยนต์ทั้งหมด เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, การเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่, การเติมน้ำยาแอร์และเปลี่ยนน้ำมันเบรก, เติมน้ำมันพวงมาลัย Power, เติมน้ำให้กับหม้อน้ำ รวมไปถึงน้ำยาฉีดกระจกด้านหน้าก็ควรเติมด้วยเช่นกัน เพราะจุดเหล่านี้ถ้าไม่เปลี่ยนหรือไม่เติมอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนต่างๆ ได้ ยิ่งปล่อยให้แห้งหรือสกปรกนานวันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียหายหนักมากเท่านั้น ซึ่งแต่ละส่วนที่กล่าวมานี้จะทำงานอย่างสัมพันธ์กันกับเครื่องยนต์ภายใน ดังนั้นเมื่อได้รถมาแล้วจึงควรรีบเปลี่ยนและรีบเติมของเหลวภายในเครื่องยนต์ทั้งหมดทันที
2. ตรวจสอบห้องเครื่องอีกครั้ง
หลังจากที่คุณตรวจสอบเครื่องยนต์เบื้องต้นมาแล้ว เมื่อคุณได้รถจากตลาดรถมือสองมาให้คุณตรวจสอบที่ห้องเครื่องอีกครั้ง โดยให้เริ่มดูตั้งแต่สายพาน, สายหัวเทียน, สายไดชาร์จ-ไดสตาร์ท รวมไปถึงส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ การตรวจสภาพนี้จะดูว่าเครื่องยนต์ใช้งานมายาวนานแค่ไหน ถ้ามีสภาพที่เก่ามากเกินไปก็ควรจะต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อการใช้งาน ซึ่งส่วนต่างๆ ภายในรถเหล่านี้ราคาไม่สูงเกินไป ดังนั้นจึงควรค่าแก่การเปลี่ยนใหม่ สำหรับหัวเทียนนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 กิโลเมตร ดังนั้นถ้าใช้มานานหรือใช้มากกว่า 20,000 กิโลเมตร ก็ควรเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่, ขั้วหัวเทียน, จานจ่าย และส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อต้องใช้งานรถยนต์ในช่วงฤดูร้อนและเป็นการสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับตัวเองอีกด้วย
3.ตรวจช่วงล่าง
อีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรพารถยนต์มือสองที่เพิ่งซื้อมาไปตรวจสอบ คือ เรื่องของช่วงล่าง ถ้าคุณตรวจสอบเบื้องต้นมาแล้วว่ายางรถยนต์มีดอกยางและยังดูมีคุณภาพอยู่ ให้คุณตรวจสอบเรื่องของลมยางที่ควรอยู่ในสภาพสมดุล โดยให้เติมลมยางที่ประมาณ 27-28 เพื่อให้รถวิ่งได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ควรตรวจสอบช่วงล่างเรื่องของยางหุ้มแร็ค, ลูกหมาก, คันส่ง, คันชัก และปีกนก เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์ช่วงล่างเหล่านี้จะเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีความราบรื่นและปลอดภัย พร้อมการนำรถไปตรวจสอบและทำการถ่วงล้อใหม่ เพื่อให้รถจะสามารถขับได้ตามปกติไม่ก่อให้เกิดอันตรายในการเดินทางไกล พร้อมเป็นการดูด้วยว่ามีโคลน, ทราย และหินติดอยู่ในช่วงล่างจนอาจจะทำให้เกิดความสกปรกและกลายเป็นอันตรายได้หรือไม่อีกด้วย
4.ตรวจสอบไส้กรอง
สำหรับไส้กรองแล้วจะมีทั้งไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ไส้กรองอากาศ และไส้กรองเบนซินที่คุณควรตรวจสอบให้ดี ซึ่งถ้าคุณถอดออกมาแล้วไส้กรองเหล่านี้มีความเหนียว เพราะอาจจะยังไม่เคยโดนเปลี่ยนมาก่อน โดยเฉพาะไส้กรองน้ำมันเครื่องคุณควรทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองใหม่ เพื่อทำให้เกิดการใช้งานที่มีความปลอดภัย ส่วนไส้กรองอากาศควรถอดออกมาทำความสะอาดด้วยการเป่าจากปั๊มลมที่จะช่วยทำให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ส่วนไส้กรองเบนซินเมื่อถึงเวลาแล้วควรทำการเปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์กระตุกและไม่เกิดปัญหาในการเดินทางไกล
5.เพิ่มฟังก์ชั่นภายในรถให้เหมาะสม
เมื่อคุณเริ่มใช้งานรถแบบจริงจัง เรื่องที่คุณควรทำ คือ การเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบความบันเทิงใหม่, การเพิ่มลำโพงให้มากขึ้น, การปรับเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม รวมไปถึงเทคโนโลยีภายในที่สามารถเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบ USB , การต่อความบันเทิงแบบจอ LCD หรือแม้แต่การสั่งงานผ่านทางเสียง ซึ่งคุณสามารถติดตั้งใหม่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้รถของตัวคุณเอง นอกจากนี้ระบบ GPS นำทางที่จะช่วยทำให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกควรนำมาติดตั้งด้วยเช่นกัน โดยให้เลือกรุ่นที่บอกทางได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้คุณใช้ประโยชน์ได้จริงและนำพาคุณไปสู่เส้นทางที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย
6.ทำความสะอาดภายในรถยนต์
เรื่องแรกที่คุณควรทำหลังการรับรถจากตลาดรถมือสองมาแล้ว คือ การทำความสะอาดภายในของรถยนต์ ถ้าคุณไม่นำพารถไปทำความสะอาดนอกบ้าน ให้คุณทำความสะอาดด้วยตัวคุณเองด้วยการดูดฝุ่น, นำพรมออกมาสะบัดและซักล้าง พร้อมการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ บนเบาะกับอากาศภายในของรถยนต์ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์เช็ดเบาะได้จะดีมาก รวมไปถึงการเปิดระบายอากาศภายในรถเพื่อกำจัดฝุ่นและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ จากนั้นให้คุณลงน้ำยาเคลือบเงาทั้งคอนโซลและเบาะ เพื่อทำให้ทุกส่วนภายในของรถยนต์ดูใหม่มากขึ้น
7.ล้างรถเองอย่างเบามือ
แม้ว่าจะเป็นรถยนต์มือสอง แต่เมื่อคุณได้มาแล้วและต้องการล้างรถภายนอก ไม่ควรนำรถไปอัดฉีดเด็ดขาด แต่ควรล้างด้วยตัวคุณเองอย่างเบามือที่สุด เพราะรถที่ถูกขายมาจากตลาดรถมือสองอาจจะมีการขัดสีรถและบางคันอาจจะมีการทำสีใหม่ รวมไปถึงการใส่ยางกันน้ำซิลิโคนที่ประตูและกระจกหน้าต่างใหม่ ดังนั้นเมื่อคุณได้รถมาแล้วจึงควรล้างรถอย่างเบามือหรือเว้นระยะไปก่อน ไม่ควรล้างรถทันที เพราะอาจจะยิ่งทำให้สีกับขอบยางที่ถูกทำมาเสียหายง่ายไปด้วย
เมื่อคุณได้รถจากตลาดรถมือสองมาแล้ว คุณควรทำทั้ง 7 เรื่องนี้ทันที เพื่อทำให้รถของคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะทำให้รถนำพาคุณเดินทางไปได้ทุกที่อย่างมั่นใจและช่วยทำให้การซื้อรถในครั้งนี้ของคุณได้รับความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
