ขั้นตอนการซื้อรถมือสอง ต้องทำอย่างไรถึงได้รถที่ถูกใจทั้งรถและราคา

ขั้นตอนการซื้อรถมือสอง ต้องทำอย่างไรถึงได้รถที่ถูกใจทั้งรถและราคา

          เมื่อตัดสินใจที่จะหาซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกมาใช้งานกันสักคันหนึ่งแล้ว หลายคนก็อยากได้รถที่สภาพดี ซื้อมาใช้แล้วคุ้มค่า มีปัญหาจุกจิกไม่เยอะ สามารถซ่อมบำรุงได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องมีการหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจมาให้ดีว่าจะเลือกซื้อรถยนต์มือสองราคาถูกรุ่นไหนให้คุ้มค่ามากที่สุดในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งก็ต้องมีทั้งในขั้นตอนของการค้นหารุ่นรถที่ใช่รวมไปถึงการดูรถคันจริงว่าเป็นอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถกัน วันนี้เราก็เลยมีขั้นตอนในการหารถเพื่อให้ได้รถมือสองที่ถูกใจทั้งในด้านราคาและตัวรถมาฝากกัน

 

  1. กำหนดงบประมาณที่จะใช้ซื้อรถยนต์มือสองราคาถูก

            ข้อนี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดว่าเราจะได้สเปคของรถยนต์มือสองราคาถูกแบบไหน เพราะในบางครั้งถ้ารถคันที่เราถูกใจแต่มีราคาแพงกว่างบที่ตั้งเอาไว้ค่อนข้างมากก็อาจจะทำให้เราต้องลดสเปคลงมาดูรุ่นที่เก่ากว่าหรือดูรุ่นอื่นที่มีราคาอยู่ในช่วงของงบประมาณที่ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะดูรถรุ่นไหนกันดีก็แนะนำให้ลองค้นหาโดยกำหนดช่วงราคาเอาไว้ด้วยว่าจะให้อยู่ตั้งแต่ราคาเท่าไหร่ไปจนถึงราคาเท่าไหร่ที่สามารถจ่ายไหวได้เต็มที่ จากนั้นก็ทำการเลือกดูว่ามีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจและตรงสเปคของเราในราคาที่ต้องการมากที่สุด แล้วค่อยลงไปดูรายละเอียดของรถแต่ละคันที่เลือกมาเป็นลำดับต่อไป 

 

  1. กำหนดรุ่นรถที่ต้องการเอาไว้ก่อน

            ในกรณีนี้ก็คือเรามีการปักธงเอาไว้ในใจอยู่ก่อนแล้วว่ารถยนต์มือสองราคาถูกรุ่นไหนที่เราต้องการจะซื้อ จากนั้นก็ให้ทำการค้นหาราคากลางของรถมือสองรุ่นที่ต้องการว่าอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วค่อยเข้าไปค้นหาตามเว็บไซต์รถต่าง ๆ จากหลาย ๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบดูว่ารถรุ่นที่เราต้องการมีราคาขายอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่กันบ้าง แต่ทั้งนี้ก็แนะนำว่าอย่าเห็นแก่รถมือสองที่มีราคาถูกมากจนดูผิดปกติเพราะอาจมีสาเหตุที่ทำให้ราคาของรถนั้นถูกจนเกินไป ในแง่ดีสุดก็คือผู้ขายร้อนเงินเลยตั้งราคาเอาไว้ถูกเพื่อจะได้ขายออกได้เร็ว ๆ แต่ในแง่ร้ายก็คืออาจเป็นรถที่ผ่านการชนหนักมาก่อนจนทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ดีเหมือนเดิมจนต้องขายทิ้งเพื่อเอาเงินมาใช้ดีกว่า ถ้าเป็นกรณีนี้ตัวคุณก็จะกลายเป็นได้รถแต่ต้องจ่ายแพงกว่าในเรื่องของค่าซ่อมและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั่นนี่กันอีกเยอะ หรือในกรณีร้ายสุดก็คือเป็นรถที่ถูกขโมยมา งานนี้อาจกลายเป็นว่ารับซื้อของโจรโดยไม่รู้ตัวก็ได้ 

 

  1. ทำการติดต่อกับผู้ขาย

          สำหรับผู้ขายรถก็จะเป็นได้ทั้งเจ้าของรถขายเองหรือเป็นดีลเลอร์อย่างเช่นเต็นท์รถทั่วไปก็ได้ ดังนั้นก่อนที่จะทำการติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้ขายก็ต้องดูว่ารถคันที่คุณต้องการซื้อนั้นเป็นรถเจ้าของขายเองหรือเป็นรถที่ซื้อผ่านเต็นท์รถ ในเบื้องต้นก็แนะนำให้ทำการลิสต์หัวข้อที่ต้องการจะพูดคุยหรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ อย่างเช่นทำไมถึงต้องการขายรถ รถเคยมีประวัติชนหนักมาก่อนหรือเปล่า ทำประกันชั้นไหนเอาไว้ ถ้าซื้อไปแล้วใช้งานได้เลยหรือว่าต้องมีการเอาไปซ่อมแซมตรงไหนก่อนบ้าง มี Book service มาให้หรือไม่ ราคาที่ตั้งเอาไว้ต่อรองได้หรือเปล่า มีของแถมอะไรมาให้ด้วยไหม รถติดไฟแนนซ์หรือเปล่า หรือสามารถจัดไฟแนนซ์ให้ได้หรือไม่ มีการรับประกันให้หรือไม่ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเป็นรถเจ้าของขายเองแน่นอนว่าในส่วนของพวกโปรโมชั่นหรือการจัดไฟแนนซ์ตรงนี้ก็จะไม่มีให้เราเพราะเป็นการขายแล้วขายเลย และถ้าหากมีการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ แล้วตอบได้ไม่ตรงคำถามหรือหลีกเลี่ยงไม่อยากตอบก็แนะนำให้ลองหารถมือสองคันอื่นดีกว่า แต่ถ้าหากผู้ขายเป็นเต็นท์รถก็มักจะมีพวกโปรโมชั่นรวมไปถึงบริการจัดไฟแนนซ์ให้ด้วย แต่ถ้ามีก็อย่าลืมเลือกดูเต้นรถที่น่าเชื่อถือกันด้วย

 

  1. ตรวจสอบประวัติและสภาพของรถ

            สำหรับการตรวจสอบประวัติของรถนั้นเราก็จะต้องดูในส่วนของเล่มทะเบียนตัวจริงของรถโดยข้อมูลในเบื้องต้นก็คือชื่อเจ้าของรถที่อยู่ในเล่มทะเบียนจะต้องตรงกับชื่อของผู้ขาย หรือถ้าชื่อไม่ตรงก็จะต้องมีเอกสารการโอนลอยมาแสดงให้เราดูด้วย เพราะอาจเป็นรถที่ยังผ่อนไม่หมดติดไฟแนนซ์อยู่ หรือไม่อย่างนั้นก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นรถที่ขโมยมาก็เป็นได้ รวมไปถึงต้องเช็คเลขตัวถังรถซึ่งเลขตัวถังรถนี้เราก็จะสามารถดูได้ถึงข้อมูลเดิม ๆ ที่ออกมาจากโรงงานไม่ว่าจะเป็น รุ่นรถ สีรถ เครื่องยนต์ ซึ่งเราสามารถเปรียบเทียบได้ว่าข้อมูลที่ระบุอยู่บนเลขตัวถังกับสภาพรถที่ดูอยู่ในปัจจุบันตรงกันหรือไม่ เพราะถ้าไม่ตรงกันก็ไปล่าผ่านการเปลี่ยนหรือถูกดัดแปลงมาแล้วนั่นเอง ในส่วนของสภาพตัวรถก็ให้เช็คโดยละเอียดทั้งภายนอกและภายในรวมไปถึงห้องเครื่องยนต์และฝากระโปรงด้านท้าย ใต้ท้องรถ และควรทดลองขับว่าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นหรือไม่ในระหว่างที่ขับขี่ ในส่วนนี้แนะนำให้พาช่างที่ไว้ใจหรือผู้ที่มีความชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะไปดูรถกับเราด้วยเป็นการดีที่สุด และแนะนำให้นัดดูรถกันแต่หัววันหน่อยเพราะว่าอาจจะใช้เวลาในการตรวจสอบรวมไปถึงทดลองขับนานพอสมควรเลยทีเดียว

 

  1. ต่อราคากันสักหน่อยแล้วค่อยตกลงซื้อขาย

            เมื่อตรวจดูสภาพรถและทดลองขับจนเป็นที่พอใจ ตกลงใจได้ว่าจะเอาคันนี้ล่ะ ซึ่งในตอนที่เราทำการตรวจดูสภาพรถรวมไปถึงการทดลองขับก็อย่าลืมหาจุดตำหนิหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นเอาไว้เพื่อนำตรงจุดนี้มาไว้ต่อรองราคากับผู้ขาย แต่ก็ต้องเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดและผู้ขายก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตรงนั้นมีตำหนิหรือว่ามีปัญหาจริง ๆ เพราะถ้าหากบางจุดที่เกิดปัญหาเมื่อเราซื้อไปเราก็จะต้องเป็นคนจ่ายเงินเพื่อทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากราคาซื้อขายกันอีก ก็อาจจะขอส่วนลดเพื่อนำเงินในส่วนนี้ไปเป็นค่าซ่อมแซมต่อไปก็ดูสมเหตุสมผลดี ซึ่งถ้าหากตกลงพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ทำการนัดหมายเพื่อทำการโอนรถและชำระเงิน ซึ่งก็จะต้องมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆให้ถูกต้องและครบถ้วนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ข้อที่ควรจำเอาไว้เลยก็คือถ้าหากทำการซื้อขายเสร็จแล้วเราจะต้องได้เล่มทะเบียนมาทันทีพร้อมกับรถ แต่ถ้าหากเป็นรถติดไฟแนนซ์อยู่ก็จะยังไม่ได้เล่มทะเบียนมาเพราะรถยังเป็นของไฟแนนซ์ ดังนั้นจึงต้องทำการซื้อขายกันผ่านบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทไฟแนนซ์ด้วย 

 

            ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์มือสองราคาถูกแต่ส่วนใหญ่ก็มีราคาหลักแสนกันขึ้นไป ซึ่งอันที่จริงก็เป็นเงินก้อนใหญ่อยู่เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรมีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการซื้อขายรถเอาไว้ให้พร้อม และควรมีผู้ชำนาญการคอยให้คำแนะนำรวมไปถึงช่วยตรวจสอบรถมือสองกับเราด้วย เพื่อที่จะได้รถยนต์มือสองราคาถูกรุ่นที่ถูกใจอยู่ในงบประมาณและสภาพดี มีที่มาที่ไปใสสะอาดไม่ผิดกฎหมาย จะได้ไม่ต้องเรื่องให้ปวดหัวกันในภายหลัง

กันยายน 10 2022 By Admin รถยนต์มือสองราคาถูก       

บทความอื่นที่น่าสนใจ