เชื่อว่าคนใช้รถหลายๆ คนต้องเคยประสบปัญหาแม้จะซื้อรถยนต์มือสองที่มีราคารถมือสองไม่แพงมาก แต่ก็กลับจะส่งไม่ไหว เนื่องมาจากสถานการณ์ Covid 19 ที่ยังคงไม่นิ่ง จึงทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มทยอยกันปิดตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ดังนั้นการรีไฟแนนซ์จึงกลายเป็นหนึ่งทางเลือกที่เจ้าของรถบางรายรู้สึกสนใจ แต่ก็ทำให้ผู้ผ่อนรถบางรายรู้สึกลังเลใจไม่น้อยว่าการรีไฟแนนซ์ของรถมือสองจะดีจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงขอแนะนำรายละเอียดของการรีไฟแนนซ์และตอบคำถามว่าจะดีจริงตามที่คุณคิดไว้หรือไม่ ดังต่อไปนี้
1.ทำความรู้จักการรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์ คือ การกู้ยืมจากไฟแนนซ์หรือธนาคารด้วยการนำรถยนต์ไปเป็นทรัพย์สินในการค้ำประกัน เพื่อนำเงินที่ถูกประเมินได้จากทางธนาคารมาทำการซื้อรถยนต์ขาดจากไฟแนนซ์เดิม เรียกได้ว่าเป็นการใช้หนี้ใหม่เพื่อปิดหนี้เก่า โดยที่มีทรัพย์สินก็คือรถยนต์เป็นหลักประกัน แต่ทั้งนี้การที่คุณจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในหลายๆ ส่วน ซึ่งทางธนาคารที่คุณยื่นขอรีไฟแนนซ์ใหม่นั้นจะเป็นผู้ประเมินอีกครั้ง การรีไฟแนนซ์นั้นสามารถใช้ได้ทั้งกับธนาคารใหม่และธนาคารเดิม ในส่วนของธนาคารเดิมนั้นอาจจะมีโปรโมชั่นที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าและมีความน่าสนใจมากกว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่มีราคารถมือสองไม่แพงมาก จึงสามารถที่จะขอยื่นเพื่อรีไฟแนนซ์ใหม่ได้ ข้อดีของการรีไฟแนนซ์นั้นคือคุณจะได้วงเงินที่สูงกว่าการนำรถไปขาย ยังคงมีรถใช้อยู่ และสามารถผ่อนต่อไปได้ โดยคุณนำเงินในส่วนที่ได้มาไปปิดหนี้ไฟแนนซ์เดิมให้หมด เพื่อมาส่งหนี้กับไฟแนนซ์ใหม่ที่ถูกลงกว่าเดิม และถ้าเงินปิดหนี้ยังเหลือ คุณก็สามารถนำเงินในส่วนนั้นไปใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่ยังคงต้องผ่อนชำระอยู่เช่นเดิมจนกว่าจะครบสัญญา แต่ในการผ่อนราคารถมือสองจะเบาลง
2.รีไฟแนนซ์แล้วคุ้มจริงหรือ?
การรีไฟแนนซ์ของคุณจะคุ้มค่าหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับรถยนต์ที่คุณใช้งาน ถ้าราคารถมือสองของคุณไม่สูงมากและเป็นรถนานเกินกว่า 10 ปี การรีไฟแนนซ์ก็อาจจะได้เพียงแค่เสมอตัว คือ สามารถปิดหนี้เก่าได้ แต่อาจจะไม่มีเงินเหลือมากนักหรือไม่เหลือเลย แต่จะมีข้อดีที่คุณจะได้ส่งรถในดอกเบี้ยที่ถูกลงและราคารถมือสองผ่อนต่อเดือนที่เบาลงกว่าเดิม ดังนั้นเรื่องของดอกเบี้ยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณจะต้องตรวจสอบให้ดี ถ้าดอกเบี้ยของรีไฟแนนซ์ใหม่ถูกกว่าที่คุณส่งอยู่ ย่อมให้ความคุ้มค่าอย่างแน่นอน แต่ถ้าการรีไฟแนนซ์ของคุณเป็นไปเพราะแค่เพียงอยากได้เงินก้อนไปปิดหนี้ด้านอื่นหรือนำไปใช้จ่ายย่อมไม่คุ้มค่าแน่นอน เพราะกลายเป็นว่าคุณจะต้องส่งหนี้ 2 ที่พร้อมกัน ซึ่งถือว่าโหดมากเลยทีเดียว
3.รีไฟแนนซ์ไปแล้วผ่อนไม่ไหวทำอย่างไร
ถ้าคุณเกิดปัญหารีไฟแนนซ์ไปแล้วแต่ก็ยังคงผ่อนราคารถมือสองไม่ไหว ไม่ว่าจะขอผ่อนชำระหนี้หรือทำวิธีใดก็ตามยังคงไม่สามารถที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือการขายรถของคุณทิ้งทันที โดยขายในราคารถมือสองที่พอเหมาะ เพื่อทำให้รถของคุณขายออกได้เร็วที่สุดและสามารถนำมาปิดหนี้ได้มากที่สุด ถ้าคุณโชคดีขายรถด้วยราคารถมือสองที่บวกกำไรมาแล้วเกิดขายได้จริง คุณก็จะสามารถนำเงินไปปิดรถได้ทั้งหมดและได้เงินกำไรมาใช้จ่ายในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าคุณขายแล้วเกิดขาดทุน คุณต้องคำนวณว่าจำนวนที่ขาดไปนั้นมากหรือน้อย ถ้าไม่มากจนเกินไปคุณก็ควรรีบขายแล้วนำเงินมาปิดหนี้ไปทั้งหมด ส่วนเงินที่ยังขาดอยู่อีกเล็กน้อยคุณก็เพียงแค่ผ่อนชำระรายเดือนตามปกติ เท่านี้หนี้ของรถยนต์ที่คุณรีไฟแนนซ์ไว้ก็จะไม่มากวนใจหรือทำให้รู้สึกต้องเครียดอีกต่อไป
4.การคำนวณรีไฟแนนซ์
สำหรับการคำนวณยอดของการรีไฟแนนซ์ ให้คุณเริ่มคิดตั้งแต่ละครั้งแรกที่คุณซื้อรถมาและนำดอกเบี้ยแรกที่คุณได้จากการซื้อรถคันนี้ พร้อมด้วยงวดของการผ่อนชำระมาคูณกัน จะกลายเป็นสูตรคํานวณเงินต้นคูณเปอร์เซ็นต์ของดอกเบี้ยและคูณด้วยระยะเวลาของการผ่อนชำระทั้งหมด เช่น ถ้าราคารถมือสองของคุณตอนซื้อมาอยู่ที่ 4 แสนบาท ในอัตราดอกเบี้ย 3% และเลือกส่งเป็นเวลา 5 ปี หรือ 60 งวด ให้คุณใช้สูตร 400,000 x 3% x 5 ปี จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น 60,000 บาท เมื่อคุณจะผ่อนชำระก็จะกลายเป็นราคารถที่ 460,000 บาท โดยที่คุณจะเลือกผ่อนชำระอยู่ที่ 60 งวดหรือ 5 ปี ก็จะตกอยู่เดือนละ 7,666.66 บาท ซึ่งในบางไฟแนนซ์อาจปัดเป็นเดือนละ 7,700 บาท แต่ถ้าคุณได้ผ่อนชำระจนกระทั่งเหลือเพียงแค่ 36 งวด ให้คุณใช้สูตรในการคิดคือ 7,700 คูณด้วย 36 งวด เท่ากับว่าคุณจ่ายหนี้รถไปแล้ว 277,200 บาท และให้คุณนำมาลบออกจาก 460,000 บาท จะเหลือเป็นยอดที่คุณต้องส่งต่อคือ 182,800 บาท จากนั้นคุณทำการยื่นขอรีไฟแนนซ์ใหม่ โดยทางไฟแนนซ์เล็งเห็นแล้วว่ารถของคุณสามารถรีไฟแนนซ์ได้ 200,000 บาท ให้คุณนำยอด 200,000 บาทลบออกจาก 182,800 บาท จะได้ยอดคงเหลือออกมา คือ 17,200 บาท นั่นหมายความว่าคุณสามารถปิดหนี้รถมือสองของคุณจากไฟแนนซ์เก่าได้ครบถ้วนและได้กำไรมาเพิ่มอีก 17,200 บาทอีกด้วย
การรีไฟแนนซ์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าคุณซื้อราคารถมือสองที่ไม่แพงมาก แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ทำให้คุณส่งต่อไปไม่ไหว คุณก็จะสามารถได้เงินก้อนเล็กๆ มาใช้จ่ายได้และปิดไฟแนนซ์เก่า พร้อมได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง การจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนจึงลดลงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้คุณจะต้องดูให้ดีว่าความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับนั้นมีมาก-น้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ยที่คุณจะต้องมองหาไฟแนนซ์ใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าไฟแนนซ์เดิมของคุณ และจะต้องต่ำกว่าพอสมควร เพราะถ้าต่ำกว่าเพียงแค่เล็กน้อยอาจจะช่วยคุณไม่ได้มากนัก ที่สำคัญคือถ้าการรีไฟแนนซ์นี้ยังทำให้คุณไปต่อไม่ไหว ไม่ควรฝืนและรีบขายรถทิ้งทันที เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมากจนเกินไป
